ขายตรง คือ

การขายตรง (Direct Sales)
คำว่า การขายตรง ที่บัญญัติขึ้นโดยสมาพันธ์การขายโดยตรงแห่งโลก (World Federation of Direct Selling Associations) และสมาคมการขายโดยตรง (ไทย) หมายถึงการทำตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค ในลักษณะของการนำเสนอขายต่อผู้บริโภคโดยตรง ณ ที่อยู่อาศัยของ ผู้บริโภคหรือที่อยู่อาศัยของผู้อื่น ณ ที่ทำงานของผู้บริโภคหรือที่อื่นๆ โดยผู้ขายตรงใช้การอธิบายหรือสาธิตสินค้า เป็นกลยุทธ์หลักในการเสนอขาย

การขายตรง เป็นการเสนอขายสินค้าหรือบริการให้แก่ผู้บริโภค โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง  ไม่มีการวางขายโดยทั่วไป  สินค้าส่วนใหญ่พนักงานขายจะต้องสาธิตวิธีการใช้ให้ลูกค้าดู  รูปแบบการขายตรงจะเป็นการเสนอขายสินค้าถึงบ้าน  หรือที่ทำงานถึงลูกค้า  ทางโทรศัพท์  ทางไปรษณีย์ หรือการออกงานแสดงสินค้า

ลักษณะของการขายตรง
       ข้อดี  ของธุรกิจขายตรงคือ ที่ตั้งสำนักงานไม่จำเป็นต้องอยู่ในย่านการค้า  จึงเป็นการช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงาน  ลูกค้าได้สัมผัสและทดลองใช้สินค้าก่อนซื้อ
       ข้อเสีย ของธุรกิจตรงคือ พนักงานขายมักจะเปลี่ยนงานบ่อย  ทำให้ผลงานไม่ต่อเนื่อง  หรือพนักงานขายทำงานให้หลายบริษัท ทำให้มีผลงานน้อย


ลักษณะของการดำเนินงานการขายตรง
1.เป็นอาชีพอิสระ
  สามารถจัดการเวลาขายสินค้า/บริการได้ด้วยตนเอง
2.ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านเพื่อแสดงสินค้า
  สามารถเสนอขายสินค้า/บริการ  ในบริเวณสถานที่ของลูกค้า
3.สินค้า/บริการส่วนใหญ่พนักงานต้องทำการสาธิตแนะนำ ชี้แจง
  ให้ลูกค้าเห็นคุณภาพ  ประโยชน์  ความจำเป็น ฯลฯ เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ
4.ลูกค้าบางรายตัดสินใจซื้อสินค้า/บริการ
  เพราะความคุ้นเคยที่มีต่อพนักงานขาย
5.พนักงานขายเป็นผู้ประชาสัมพันธ์สินค้า/บริการ
  แทนการโฆษณา(Advertising)ตามสื่อโฆษณาต่างๆ 


ระบบการขายตรง(Direct Sales System) ในประเทศไทยนิยมใช้อยู่ในปัจจุบัน มีอยู่ 2 ระบบดังนี้.
1. .ระบบการขายตรงแบบชั้นเดียว  (Single level marketing: SML)
พนักงานขายจะได้รับผลตอบแทนในรูปของส่วนลดเป็นเปอร์เซ็นต์ตามยอดขาย (Commission plans) ที่ทำไว้ พนักงานขายที่แนะนำตัวแทนขายมาเพิ่มขึ้น ไม่มีผลประโยชน์อื่นเพิ่มจากยอดขายของทีมงาน เพียงอาจได้รับรางวัลสำหรับการแนะนำตามที่กิจการกำหนดไว้.
พนักงานขายมีโอกาสก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหารเมื่อสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าที่กิจการกำหนด.

2. ระบบการขายตรงแบบหลายชั้น (multi level marketing: MLM)
แนวความคิดของระบบขายตรงแบบหลายชั้นเกิดขึ้นครั้งแรกในอเมริกา โดยนำแนวความคิดจากร้านค้า แบบลูกโซ่ (Chain store) ซึ่งเป็นร้านที่อยู่ใน เครือข่ายสังกัดบริษัทเดียวกันมาประยุกต์ใช้โดยมุ่งเป้าหมายเพื่อ เน้นการขายสินค้าให้ได้และพยายามทำให้ลูกค้าที่ซื้อสินค้านั้นเป็นลูกทีมขายสินค้าต่อๆ ไป เป็นลูกโซ่ พร้อมทั้งพยายามสร้างเครือข่ายให้ขยายออกไปให้ได้มากที่สุด.

ผลประโยชน์ที่พนักงานขายจะได้รับจากระบบการขายตรงหลายชั้น
- ได้รับส่วนลดจากการจำหน่ายในอัตราเท่ากันทุกตำแหน่ง
- ได้คอมมิชชั่น ตามตำแหน่งในเครือข่ายที่ดำรงอยู่ในปัจจุบัน
- ได้คอมมิชชั่นจากยอดขายของเครือข่ายกลุ่มลูกโดยตรง
- ได้คอมมิชชั่นจากยอดขายของเครือข่ายกลุ่มหลาน
-  ผลประโยชน์จากยอดขายของเครือข่ายสามารถ โอนเป็นมรดกตกทอดไปยังทายาทได้ตลอดไป.

รูปแบบการขายสินค้าด้วยระบบ ICT (การขายตรงผ่านอินเทอร์เน็ต)
การจัดจำหน่ายทางอินเทอร์เน็ตมีความสำคัญเพราะอินเทอร์เน็ตเป็นสื่อที่สามารถกระจายไปยังลูกค้าจำนวนมากในเวลาเดียวกันอย่างทั่วถึงทุกมุมโลก  นับเป็นช่องทางการจำหน่ายที่ดีที่สุด  และคุ้มต้นทุนการจัดจำหน่ายมากกว่าการโฆษณาสินค้าเพียงชิ้นใดชิ้นหนึ่งเท่านั้น.

ช่องทางการจำหน่ายผ่านทางอินเทอร์เน็ตมีดังนี้.
1. ช่องทางการขายตรงสู่ผู้บริโภคทั่วไป (Business To consumer) หรือ B to C เป็นวิธีการขายที่เข้ามาแทนการขายแบบดั้งเดิม ที่มีระบบการขายทางไปรษณีย์ หรือ ระบบขายตรง เป็นต้น จุดเด่นของช่องทางนี้คือ ให้ความสะดวกแก่ผู้บริโภคได้หลากหลาย ทำให้ผู้บริโภคไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปซื้อสินค้า การชำระเงินลูกค้าสามารถชำระผ่านบัตรเครดิต หรือธนาคารแล้วแต่จะตกลงกัน
2. ช่องทางขายตรงไปสู่พ่อค้าส่ง และพ่อค้าปลีกทั่วไป (Business To Business) หรือ B to B ทำหน้าที่คนกลางติดต่อซื้อขายระหว่างธุรกิจต่างๆ เป็นการซื้อขายสินค้าที่มีจำนวนมาก และทำการชำระเงินผ่านธนาคาร
3.ช่องทางขายตรงระหว่างผู้บริโภค (Consumer To Consumer) หรือ C to C เป็นการขายสินค้าและการบริการ กับผู้ใช้อินเทอร์เน็ตด้วยกันเอง ช่วยให้ผู้บริโภคนำสินค้าเข้ามาขายและเลือกซื้อสินค้าที่ต้องการได้สะดวก
4. ช่องทางการขายตรงระหว่างเอกชนกับภาครัฐ (Business to Government) หรือ (B to G) เป็นการขายสินค้าระหว่างเอกชนกับภาครัฐ ซึ่งต้องมีกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้อง

สินค้าในระบบขายตรงเป็นอย่างไร?
1.ผู้ประกอบธุรกิจต้องจดทะเบียนประกอบธุรกิจขายตรงกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค                     
2.ลักษณะสินค้าต้องมีความเหมาะสมในการใช้โดยการเปรียบเทียนกับสินค้าอื่นโดยทั่วไปรวมถึงราคาที่มีความเหมาะสม                     
3.ฉลากสินค้าต้องเป็นไปตามที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคกำหนด และหากเป็นสินค้าที่ต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงานอื่นก่อน ก็ ก็ต้องมีตราหรือสัญลักษณ์อนุญาตนั้นด้วย เช่น อาหารและยาภายใต้การควบคุมของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เป็นต้น
4.หากผู้ขายชักจูงให้เข้าร่วมธุรกิจ โดยบอกว่าจะได้รับผลประโยชน์จำนวนมากจากการที่ชักนำบุคคลให้เข้าร่วมธุรกิจ และแสดงให้เห็นว่าไม่มีการขายสินค้าอย่างแท้จริง ไม่ควรเข้าร่วมธุรกิจด้วย                     
5.ผู้ขายต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมบัตรประจำตัวผู้จำหน่ายอิสระในการเสนอขายสินค้าทุกครั้ง                     
6.ผู้บริโภคจะต้องได้รับเอกสารการซื้อขายเพื่อนเป็นหลัดฐานและเพื่อทราบสิทธิในการคืนสินค้ารวมทั้งรายละเอียดอื่นที่เกี่ยวข้อง                     
7.ผู้บริโภคต้องระลึกเสมอว่า สินค้าทุกชนิดย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่ในตัว จึงควรใช้ความรอบคอบก่อนซื้อสินค้า หรือรับบริการทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นระบบขายตรงหรือการขายทั่วไปก็ตาม


1.ต้องมีการขายสินค้าโดยผ่านผู้จำหน่ายอิสระ
ผู้ประกอบธุรกิจขายตรงตรง

  
2.ผู้จำหน่ายอิสระจะได้รับค่าตอบแทนตามแผนการจ่ายผลตอบแทน ที่ผู้ประกอบธุรกิจขายตรงจดทะเบียนไว้เท่านั้น และแผนการจ่ายผลตอบแทนต้องเกิดจากการขายสินค้าให้ผู้บริโภคแต่ถ้าผู้ประกอบการไม่ทำตามแผนที่กำหนดการจ่ายผลตอบแทน หรือให้ทำการขายแต่เอาเปรียบผู้จำหน่าย หรือไม่จ่ายผลตอบแทนให้ ถ้าไม่ครบตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้ ถือว่าผิดกฎหมาย โดยผลตอบแทนจะต้องเป็นธรรมและเป็นไปตามสภาพของธุรกิจ

3.แม้กฎหมายจะมิได้บัญญัติไว้ชัดเจนว่า ผู้ประกอบธุรกิจขายตรงมีหน้าที่จัดทำเอกสารซื้อขายที่ต้องมีตามกฎหมาย แต่ตามปกติและโดยเหตุผลที่เป็นไปตามครรลองการทำธุรกิจแล้วผู้ประกอบธุรกิจต้องจัดทำเอกสารซื้อขายดังกล่าวเพื่อให้ผู้จำหน่ายอิสระมอบให้ผู้บริโภค ทั้งนี้เพื่อ 
3.1ใช้เป็นหลักฐานแห่งการทำนิติกรรมการซื้อ-ขาย ระหว่างผู้จำหน่ายอิสระกับผู้บริโภค
3.2ใช้เป็นหลักฐานในการคำนวณผลตอบการขาย แต่ถ้าผู้ประกอบธุรกิจการขายตรงมีระบบบริหารยอดซื้อ-ขายสินค้าระหว่างผู้จำหน่ายอิสระกับผู้บริโภคโดยไม่ใช้เอกสารการซื้อขายดังกล่าวเป็นหลักฐานแสดงให้เห็นว่าได้ใช้วิธีใดในการคำนวณยอด การขายหากผู้ประกอบธุรกิจขายตรงสามารถแสดงได้ว่ามีการขายสินค้าผ่านผู้จำหน่ายอิสระไปยังผู้บิโภค จะถือว่าธุรกิจมิได้ประสงค์จะทำการค้าในระบบขายตรงตามที่กำหนดไว้ในกฎหมาย และนายทะเบียนมีอำนาจถอนทะเบียน ทำให้ผู้ประกอบไม่สามารถประกอบธุรกิจขายตรงได้อีกต่อไป

4.สินค้าที่จำหน่ายในระบบขายตรงต้องมีหลักฐานแสดงได้ว่ามีการผลิต หรือการนำหรือรัยจัดจำหน่ายอย่างแท้จริง โดยต้องแสดงเอกสารหลักฐานที่อ้างอิงได้ เมื่อขอรับจดทะเบียนการประกอบธุรกิจขายตรง
   อนึ่ง สินค้าที่มีกฎหมายกำหนดอยู่แล้ว จะขอจดทะเบียนเพื่อขายจำหน่ายไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าที่เป็นอันตราย และสินค้าที่มีการควบคุมการจำหน่าย เช่น ยา เครื่องมือการแพทย์ เป็นต้น

5. สินค้าต้องมีความสมบูรณ์ในตัวเองไม่ได้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขเปลี่ยนแปลงได้ เช่นการขายบัตรสมาชิก บัตรเติมเงิน บัตรส่วนลดสินค้าที่เป็นสิทธิประโยชน์ที่เปลี่ยนแปลงได้ สุดแล้วแต่เจ้าของจะกำหนด หวยบนดิน สินค้าเหล่านี้ไม่ควรนำมาขายผ่านระบบขายตรง

6.สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจะตรวจสอบการดำเนินธุรกิจขายตรงของผู้ประกอบธุรกิจขายตรงที่จดทะเบียนไว้ โดยอาจเรียกหลักฐานต่างๆ จากผู้ประกอบธุรกิจรายหนึ่งรายใด  โดยมีหนังสือแจ้งให้ส่งเอกสารหลักฐานดังกล่าวมายังสำนักงาน.
          
การคุ้มครองผู้บริโภค
      เราจะเห็นได้ว่ามีสินค้าและบริการมากมายถูกนำเสนอเพื่อเข้าสู้ตลาดเพื่อตอบสนองความต้องการของเราในบางแง่ก็อาจมองได้ว่าเป็นผลประโยชน์ของผู้บริโภคที่สามารถเลือกซื้อสินค้าหรือบริการนั้นๆ ได้ตามความต้องการ  แต่ในแง่ของการแข่งขันธุรกิจที่เข้มข้นได้มีการนำเอาวิชาการด้านการตลาดและการโฆษณามาใช้ในการส่งเสริมการขายเพื่อกระตุ้นและชักจูงใจให้เกิดการซื้ออย่างรวดเร็ว
ผู้ผลิตก็อาจเอาเปรียบผู้บริโภคเกี่ยวกับคุณภาพปริมาณและราคาของสินค้าได้โดยที่ผู้บริโภคไม่สามารถพิสูจน์ได้ในขณะซื้อแต่อาจพบความบกพร่องเมื่อมีการนำสินค้านั้นไปใช้ เป็นภาระแก่ผู้บริโภคที่จะไปฟ้องร้องดำเนินคดีและในบางกรณีก็ไม่อาจระงับหรือยับยั้งการกระทำที่เกิดความเสียหายแก่ผู้บริโภคได้ทันที 

    

   มาตรการคุ้มครองดูแลประชาชนที่รัฐคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคจึงเป็นการออกกฎหมายต่างๆ และมีหน่วยงานต่างๆที่รับผิดชอบในการคุ้มครองผู้บริโภคต่างๆดังนี้. 

          
การคุ้มครองผู้บริโภคโดยตรง
 พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522  พระราชบัญญัติฉบับนี้ มีวัตถุประสงค์ดังนี้.
1.เพื่อให้รัฐเป็นศูนย์กลางในการควบคุมผู้ประกอบการธุรกิจให้ดำเนินการไปตามครรลองอันเที่ยงธรรม
2.เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับสินค้าที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับราคา
3.เป็นการรวบรวมพลังของผู้บริโภคให้เกิดความสมดุลกับผู้ประกอบการธุรกิจ
    สำนักงานคุ้มครองบริโภคสังกัดอยู่ในสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็นหน่วยงานหนึ่งที่รับผิดชอบโดยตรงทำหน้าที่ให้ความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชนที่เป็นผู้บริโภคได้ตระหนักในสิทธิและหน้าที่ของตนที่เป็นผู้บริโภคในการดำรงชีวิตในประจำวันรวมทั้งทำหน้าที่คอยตรวจสอบสินค้าและบริการที่ผลิตและเสนอขายในตลาดด้วยคุณภาพที่ดีขายให้แก่ผู้บริโภคในราคาและคุณภาพที่เหมาะสมยุติธรรมรวมทั้งสร้างความเข้าใจให้ประชาชนในฐานะที่เป็นผู้บริโภค ได้ทราบถึงความสำคัญของความคุ้มครองผู้บริโภคเพื่อติดตามผู้ผลิตผู้จำหน่ายสินค้าและบริการต่างๆโดยหากพบว่าผู้ใดมีพฤติการณ์ที่ไม่ซื่อตรงเอารักเอาเปรียบไม่มีความเป็นธรรมก็สามารถแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบเพื่อดำเนินการกฎหมายต่อไปทั้งนี้ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะเรื่องเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคแต่งละอย่างดังนี้.    


- การคุ้มครองผู้บริโภค ในด้านการโฆษณาทำหน้าที่ติดตามสอดส่องและวินิจฉัยโฆษณาควบคุมดูแลสินค้าและการบริการที่ยังไม่ได้การควบคุมการโฆษณาโดยกฎหมายอื่นทำการป้องกันหรือระงับยับยั้งความเสียหายหรืออันตรายอันจะเกิดแก่ผู้บริโภคการโฆษณาจะต้องไม่กระทำด้วยวิธีการอันอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกายจิตใจ ตรวจข้อความที่ผู้ประกอบการธุรกิจขอให้พิจาณาให้ความเห็นก่อนทำการโฆษณาโดยแบ่งออกเป็น การโฆษณาที่ดิน การโฆษณาจัดสรร การโฆษณาอาคารชุด และการโฆษณาวัตถุอันตราย

- การคุ้มครองผู้บริโภคในด้านฉลาก มีหน้าที่ในการออกคำสั่งเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคในด้านฉลากทำหน้าที่ในการกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข การจัดทำฉลากสินค้า ที่ควบคุมฉลากให้ใช้ข้อความที่ตรงต่อความเป็นจริงและไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด มีสาระเกี่ยวกับสินค้า ติดตามสอดส่อง ให้ผู้ประกอบการธุรกิจ แก้ไขฉลากที่ไม่ถูกต้องหรือเลือกใช้ฉลากที่เป็นไม่ไปตามหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขที่กำหนดพิจารณาให้ความเห็นชอบ เกี่ยวกับฉลากตามที่ผู้ประกอบการร้องขอและรับเรื่องราวที่มีผู้ร้องทุกข์หรือเรื่องที่เกี่ยวกันสิทธิในการคุ้มครองผู้บริโภค  

- การคุ้มครองผู้บริโภคในด้านสัญญามีอำนาจกำหนดให้การประกอบธุรกิจขายสินค้าหรือบริการนั้นๆ เป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญาได้กำหนดให้การประกอบธุรกิจขายสินค้าหรือบริการอย่างใดอย่างหนึ่งเป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการได้หลักฐานรับเงินได้กำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขมนสัญญาได้หลักฐานการรับเงินให้ความเห็นชอบในแบบสัญญาหรือแบบหลักฐานการรับเงินแก่ธุรกิจที่ร้องของ  ระบบการขายตรง  รูปแบบขายตรงด้วยระบบ  จัดทำแบบสัญญาฉบับมาตรฐานขึ้นและได้แจ้งให้ผู้ประกอบธุรกิจทราบแล้ว 

- การดำเนินการเกี่ยวกับสินค้าที่อาจเป็นอันตรายมีอำนาจสั่งห้ามขายหรือทำลายสินค้าที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค หรือสั่งห้ามขายสินค้านั้นเป็นการชั่วคราวจนกว่าจะได้มีการทดสอบหรือพิสูจน์สินค้านั้น   

- การดำเนินคดีแทนผู้บริโภคเมื่อมีการละเมิดสิทธิของผู้บริโภคหรือเมื่อได้รับคำร้องจากผู้บริโภคที่ถูกละเมิดสิทธิซึ่งคณะกรรมการเห็นว่าการดำเนินคดีนั้นจะเป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภคเป็นส่วนรวมและยังสามารถให้การรับรองแก่สามาคมที่มีวัตถุประสงค์ในการคุ้มครองผู้บริโภคหรือต้องการแข่งขันหรือไม่เป็นธรรมทางการค้ามีสิทธิฟ้องคดีแพ่งคดีอาญาหรือดำเนินการกระบวนการ พิจารณาใดๆในคดีเพื่อคุ้มครองผู้บริโภคได้และให้มีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายแทนสมาชิกของสมาคมได้ถ้าประชาชนผู้บริโภคไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือถูกเอารัดเอาเปรียบเกี่ยวกับการซื้อสินค้าหรือการใช้บริการ สามารถ ร้องเรียนได้ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค โดยมีหมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1166 หรือจดหมาย ตู้ ปณ.99 กรุงเทพฯ 10320.                  

การคุ้มครองผู้บริโภคโดยทางอ้อม
       1.สำนักงานอาหารและยา สังกัดกระทรวงสาธารณสุข มีอำนาจในการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานการผลิต การจำหน่าย อาหาร ยา เครื่องสำอาง วัตถุอันตราย วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ยาเสพย์ติดให้โทษ สารระเหย และเครื่องมือแพทย์ และมีหน้าที่ความรับผิดชอบ ดังนี้.   

- การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ความรู้ให้ประชาชนมีความรู้ในการเลือกซื้อและบริโภค ผลิตภัณฑ์ต่างๆ   

-พัฒนาความรู้ทางด้านวิชาการ และเทคโนโลยีในการผลิตให้ทันสมัย วิจัยและสร้างเครือข่ายการถ่ายทอดข้อมูลทางวิชาการให้แก่ผู้เกี่ยวข้อง   

-ส่งเสริมและสนับสนุนการซื้อและการบริโภคผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ  

-พิจารณาอนุญาต การผลิต การนำเข้า-ส่งออก การจำหน่ายแจกจ่าย การใช้รับจ้าง การขอใช้ฉาก การโฆษณา การขึ้นทะเบียนตำรับ รวมทั้งตรวจตราดูแลสถานที่ และกระบวนการผลิต สุ่มตรวจผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มีจำหน่ายในท้องตลาด และการดำเนินการทางกฎหมาย
       
สำหรับผู้บริโภคและประชาชนที่ต้องการทราบรายละเอียดหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ที่ได้รับการรับรองจากอย. สามารถดูได้จากเว็บไซต์ของสำนักงานอาหารและยาhttp://www.fda.moph.go.th/สามารถร้องเรียนเรื่องสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน และ โอ้อวดเกินความจริงสามารถแจ้งได้ทางโทรศัพท์สายด่วน 1556
    2. สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(สมอ.)สังกัดกระทรวง
ยุติธรรมจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุสาหกรรมรม พ.ศ.2511 โดยเป็นสถาบันแห่งชาติดำเนินการและประสานงานด้านมาตรฐานอย่างเป็นระบบมีเอกภาพและเป็นที่ยอมรับในระดับสากลเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภคสังคมและการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศโดยมีหน้าที่

     - การกำหนดมาตรฐานเพื่อให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมประเภทต่างๆมีความเหมาะสมกับประเทศไทยโดยสอดคล้องกับมาตรฐานระหว่างประเทศและประเทศคู่ค้าหรือมาตรฐานระดับประเทศอื่นเพื่อให้มาตรฐานเกิดประโยชน์สูงสุด.

ผลิตภัณฑ์มาตรฐานบังคับตามกฎหมายได้แก่
1.ผลิตภัณฑ์เกษตร
2.โยธาและวัสดุก่อสร้าง
3.โภคภัณฑ์
4.วิศวกรรมไฟฟ้า
5.วิศวกรรมของไหล
6.อาหาร
7.วิศวกรรมส่งผ่านความร้อน
8.วิทยาศาสตร์การแพทย์
9.สีและวานิช
10.ยานพาหนะ

ผลิตภัณฑ์มาตรฐานบังคับจะมีเครื่องหมายแสดง 2 ประเภทคือ
1.เครื่องหมายมาตรฐานบังคับ
2.เครื่องหมายมาตรฐานเฉพาะด้านความปลอดภัย
-การรับรองคุณภาพโดยให้การรับรองคุณภาพผลิตภัณฑ์ที่เป็นไปตามข้อกำหนดในมาตรฐานและอนุญาตให้แสดงเครื่องหมายกับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานประเภทต่างๆดังนี้
1. เครื่องหมายมาตรฐานทั่วไป
2. เครื่องหมายมาตรฐานบังคับ
3. เครื่องหมายมาตรฐานด้านความปลอดภัย
4. เครื่องหมายมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม
5. เครื่องหมายมาตรฐานเฉพาะด้านความเข้ากันได้ทั้งแม่เหล็กไฟฟ้า
6. การรับรองผลิตภัณฑ์ฉลากเขียว
-การรับรองมาตรฐานด้านอื่นๆ
ผู้บริโภค หมายถึงผู้ซื้อหรือผู้ที่ได้รับบริการจากผู้ประกอบการธุรกิจ หรือผู้ซึ่งได้รับการเสนอหรือชักชวนจากผู้ประกอบธุรกิจเพื่อให้ได้ซื้อสินค้าหรือบริการเมื่อผู้บริโภคได้ตัดสินใจในการซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบธุรกิจรายได้แล้วปรากฏว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมผู้บริโภคก็จะตกเป็นผู้เสียเปรียบและอาจได้รับความเสียหายจึงได้มีการบัญญัติกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคขึ้นเพื่อคุ้มครองสิทธิโดยบัญญัติสิทธิของผู้บริโภคไว้ 5 ประการ คือ
1.สิทธิที่ได้รับข่าวสารรวมทั้งคำพรรณนาคุณภาพที่ถูกต้องและเพียงพอเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ
2.สิทธิที่จะมีอิสระในการเลือกหาสินค้าหรือบริการ
3.สิทธิที่จะได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้าหรือบริการ
4.สิทธิที่จะได้รับความเป็นธรรมในการทำสัญญา
5.สิทธิที่จะได้รับการพิจารณาและชดเชยความเสียหาย

ประเภทของปัญหาที่ถูกละเมิดแล้วพบบ่อย
1.ผู้บริโภคซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ แต่ปรากฏว่าได้รับสินค้าชำรุด โดยที่ยังไม่ได้นำไปใช้งาน
2.ผู้บริโภคซื้อรถยนต์ใหม่ แต่ปรากฏว่ารถยนต์ชำรุดบกพร่องโดยที่ไม่สามารถแก้ไขได้ทั้งที่เป็นรถใหม่
3.ผู้บริโภคไปใช้สถานบริการออกกำลังกาย แต่ปรากฏว่าไม่มีการบริการ
4.ผู้บริโภคซื้อสินค้าแล้วพบว่า สินค้าไม่ได้มีการแสดงราคา หรือพบว่ามีราคาสูงเกินจริง
5.ผู้บริโภคซื้ออาหารแล้วพบว่า เป็นอาหารที่หมดอายุแล้วนำมาจำหน่าย หรืออาหารที่มีสารที่เป็นอันตรายปะปนอยู่
6.ผู้บริโภคไปใช้บริการในสถานที่บริการ เช่น สวนสนุกแล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้นทำให้ได้รับอันตราย7.ผู้บริโภคทำสัญญากับผู้ประกอบธุรกิจแล้วพบว่าเป็นสัญญาที่ไม่เป็นธรรมหรือผู้ประกอบธุรกิจเป็นผู้ผิดสัญญา
8.ผู้บริโภคได้รับการโฆษณาหรือคำพรรณนาคุณสมบัติของสินค้าไม่ตรงต่อความเป็นจริง
9.ผู้บริโภคใช้บริการสาธารณูปโภคต่างๆของหน่วยงานรัฐ เช่น ไฟฟ้า, น้ำประปา, โทรศัพท์,รถโดยสารประจำทาง ฯลฯ แล้วไม่ได้รับความสะอาดหรือถูกเอาเปรียบ

การร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ปัจจุบันถือเป็นหน่อยงานกลาง ผู้บริโภคที่ถูกละเมิดจึงสามารถที่จะร้องเรียนได้ทุกเรื่อง โดยถ้าเป็นเรื่องที่อยู่ในการควบคุมของหน่วยงานอื่นก็จะได้รับการดำเนินการประสานงานไปยังหน่วยงานอื่นให้ เพื่อนเป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภค

รายละเอียดในการเขียนคำร้องเรียน
วิธีเขียนคำร้องให้ถูกต้อง ชัดเจน และตรงต่อความต้องการ และวัตถุประสงค์ของผู้ร้องเรียน เพื่อนจะได้รู้วิธีแก้ไขที่ถูกต้อง รายละเอียดที่ต้องจัดทำคือ
1.ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ของผู้ร้องเรียน ผู้เสียหาย เพื่อสำหรับจะใช้ติดต่อได้
2.ชื่อบริษัท ห้างร้านของผู้ประกอบการที่ละเมิดสิทธิ
3.ประเด็นปัญหาที่ถูกละเมิดสิทธิมีอะไรบ้าง
4.ความต้องการของผู้บริโภคที่จะให้ตรวจสอบหรือเรียกร้องค่าเสียหาย
5.หลักฐานและเอกสารที่เกี่ยวข้องในการซื้อสินค้าหรือใช้บริการ


วิธีร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
1.ผู้บริโภคสามาระร้องเรียนด้วยตนเองที่สำนักงานคระกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ที่ทำเนียบรัฐบาล เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300
2.ผู้บริโภคสามารถรับแบบคำร้องของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้ที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น และร้านแฟมิลี่มาร์ททุกสาขาโดยแนบเอกสารสำคัญส่งทางไปรษณีย์
3.ผู้บริโภคสามารถร้องเรียนได้ทางเว็บไซต์
4.ผู้บริโภคสามารถร้องเรียน หรือปรึกษาข้อปัญหาข้อกฎหมายทางโทรศัพท์สายด่วน 1166

ร้องเรียนในส่วนภูมิภาค
     ผู้บริโภคสามารถร้องเรียนได้ที่ คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดทุกจังหวัด ณ ศาลากลางจังหวัด

สิทธิของผู้บริโภคที่ทำการซื้อสินค้าในระบบขายตรง
1.สิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองในการที่ผู้ขายจะเสนอขายสินค้าให้ผู้ซื้อ จะต้องแสดงบัตรประจำตัวประชาชน และบัตรประจำตัวผู้จำหน่ายอิสระประกอบการขายทุกครั้ง เพื่อแสดงให้เห็นว่าได้รับอนุญาตจากผู้บริโภค หรือเจ้าของสถานที่ก่อนนำสินค้ามาเสนอขาย
2.ผู้บริโภคต้องได้รับเอกสารการซื้อขาย (ใบเสร็จรับเงิน)เพื่อแสดงถึงสิทธิในการเปลี่ยนสินค้า เนื่องจากการขายในระบบขายตรงนั้น ผู้ขายมักจะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจคลาดเคลื่อน ขาดความรอบคอมในการเลือกซื้อสินค้า ซื้อโดยไม่ได้คิดว่าจะซื้อสินค้านั้น ดังนั้น กฎหมายจำกำหนดให้ผู้บริโภค มีสิทธิพิเศษเพิ่มเติมในการคืน หรือเปลี่ยนสินค้า และสามารถยกเลิกการซื้อสินค้าในครั้งนั้นได้โดนต้องระบุสิทธิดังกล่าวในเอกสารการซื้อขาย (ใบเสร็จรับเงิน) ที่ผู้ขายออกให้กับผู้ซื้อด้วย เมื่อใดก็ตามที่ผู้ซื้อได้รับเอกสารซื้อขายดังกล่าว ผู้ซื้อก็สามารถคืน เปลี่ยน หรือยกเลิกสัญญาได้ในทุกกรณี แม้เวลาจะผ่าวล่วงเลยไปนานเพียงใดก็ตาม
3.สิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองจากการที่ผู้ขายไม่โฆษณาขายสินค้าเกินความเป็นจริง หากผู้ขายโฆษณาสรรพคุณเกินความเป็นจริง.

การร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
      เมื่อพบเห็นพฤติกรรมของผู้ประกอบธุรกิจขายตรงที่อาจจะทำการหลอกลวงผู้บริโภคหรือสินค้าบังหน้า โดยหาผลประโยชน์จากการที่ชักชวนให้บุคคลเข้ามาร่วมธุรกิจผู้บริโภคควรปฏิบัติดังนี้.
-แจ้งกลุ่มงานป้องปรามการเงินนอกระบบสำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง ถนนพระราม 6 ซ.อารีสัมพันธ์ กรุงเทพฯ กรณีที่เห็นว่าอาจจะเข้าข่ายเป็นการชักชวนให้เข้าร่วมธุรกิจเป็นการระดมทุน
-แจ้งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยากระทรวงสาธารณาสุข ถนนติวานนท์ อ.เมือง จ.นนทบุรี 11000 ในกรณีที่สินค้าไม่ได้คุณภาพ และไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่ผ่านการรับรอง
-แจ้งสำนักคดีผู้คุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อมกรมสอบสวนคดีพิเศษ 499ประชาชื่น ข.บางซื่อ กรุงเทพฯ 10800 หมายเลขโทรศัพท์ 02-831-9888ต่อ2220,2223
-แจ้งกองปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถ.สาทรเหนือ ข.บางรักกรุงเทพฯ 10500
-ในกรณีต่างจังหวัดแจ้งได้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานประธานอนุกรมการป้องปรามการเงินนอกระบบ ณ ศาลากลางจังหวัด หรือสถานีตำรวจในท้องที่ต่างๆ